วันศุกร์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

15 พ.ค. 2552 สวัสดีจ๊ะ Anagrelide


เหตุที่ทำให้เราปรึกษากับหมอเพื่อตัดสินใจมาลองยา Anagrelide นั้น เราต้องขออนุญาตเล่าเรื่องราวย้อนไปเล็กน้อยนะคะ เนื่องจากห่างหายไปนานและเป็นเหตุที่สืบเนื่องกัน โดยจะขอย้อนไปเมื่อครั้งที่เราไปหาหมอวันที่ 16 ธ.ค. 2551

ครั้งนั้น ปริมาณเกล็ดเลือดอยู่ที่ 808,000 เม็ดเลือดขาวอยู่ที่ 4,900 หมอเพิ่มยา hydrea เป็นเช้าและเย็น มื้อละ 1 เม็ด แล้วบอกว่า คราวหน้าถ้าเกล็ดเลือดยังไม่ลด หมอคงต้องให้เปลี่ยนไปทานยาอีกตัว ซึ่งจะกดแต่เกล็ดเลือดอย่างเดียว แต่ปัญหาคือ ยาตัวนี้ ไม่อยู่ในบัญชียาหลัก ต้องจ่ายตังค์เอง (เราเคยบอกหมอว่า เรามีค่ารักษาพยาบาลซึ่งเป็นสวัสดิการของที่ทำงานอยู่จำนวนหนึ่ง ที่จะนำมาจ่ายค่ายาตัวนี้ได้) เราก็ อ่อค่ะ ถ้ายังไม่ลง ก็ลองดูค่ะ

ครั้งต่อมาวันที่ 13 ก.พ. 2552 ผลจากการเพิ่มยา hydrea ทำให้เกล็ดเลือดลดลงเหลือแค่ 377,000 เม็ดเลือดขาวลดเหลือ 3,200 ซึ่งตั้งแต่เรามีปัญหามา เกล็ดเลือดเราไม่เคยลงมาได้ต่ำขนาดนี้เลย หมอบอกว่า แต่เม็ดเลือดขาวก็ต่ำนะ เราเลยบอกหมอว่า เราเคยเม็ดเลือดขาวต่ำกว่านี้ แล้วเกล็ดเลือดไม่ได้ต่ำขนาดนี้เลย คราวนี้เราว่าเป็นค่าที่ดีที่สุดตั้งแต่เราป่วยมา หมอก็เลยลด hydrea เหลือวันละ 1 และ 2 เม็ด สลับวันกัน คือ หมออยากให้ทานวันละเม็ดครึ่งหนะ แต่มันเป็นยาแคปซูล ก็เลยต้องให้ทานแบบสลับวัน

ถัดมาอีกสองเดือน วันที่ 24 เม.ย. 2552 ผลจากการลดยา ทำให้เกล็ดเลือดเพิ่มขึ้นมาเป็น 493,000 เม็ดเลือดขาวเพิ่มขึ้นเป็น 3,500 ซึ่งการเพิ่มของเกล็ดเลือด ก็ยังอยู่ในระดับที่รับได้ แต่ได้เม็ดเลือดขาวเพิ่มมาน้อยมาก ซึ่งเราอยากให้เม็ดเลือดขาวเพิ่มมากกว่านี้อีกหน่อย ก็เลยปรึกษากับหมอเรื่องยาที่หมอเคยบอกไว้ ว่าจะกดเฉพาะเกล็ดเลือดอย่างเดียว และเรามีสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลที่เหลือซึ่งจะนำมาจ่ายค่ายาได้ ก็เลยตกลงว่าหมอจะทำใบสั่งซื้อยาตัวใหม่ให้ ที่ต้องทำใบสั่งซื้อเพราะยาตัวนี้ ไม่มีสต๊อกไว้ในโรงพยาบาล ต้องสั่งซื้อเป็นกรณีพิเศษเท่านั้น ค่ายาเท่าที่คุยกับหมอก็ประมาณ 18,000 กว่าบาท หมอนัดอีกประมาณ 20 วัน

วันนี้ 15 พ.ค. 2552 เราตื่นตั้งแต่ตี 5 ครึ่ง ทานอาหารเช้าเรียบร้อย ออกจากบ้าน 6 โมงกว่า ค่อนข้างทุลักทุเลเล็กน้อย เนื่องจากฝนตกตั้งแต่กลางคืนจนถึงเช้า ซึ่งตก ๆ หาย ๆ แบบนี้มา 3 วันแล้วค่ะ เดินลุยฝนแถมน้ำท่วมขังพื้นถนนอีกไปหน้าปากซอยเพื่อขึ้นรถ เดินไปก็นึกไป จะตกไรกันนักหนาเนี่ย กว่าจะถึงโรงพยาบาล 7 โมงครึ่ง

ถึงโรงพยาบาลก็รีบไปยื่นบัตรโรงพยาบาล แล้วไปรับรองสิทธิประกันสังคม ไปรับบัตรคิวเพื่อเจาะเลือด พอรับบัตรคิวมา แล้วมองลำดับที่กำลังเรียกเจาะตอนนี้ เรานึกในใจเลย โอ้โห ไรกันวุ้ย เราต้องรออีกเกือบ 200 คิว (ตอนนั้น เรียกลำดับที่ 220 กว่า ๆ แต่เราลำดับที่ 410) ไม่เป็นไร สู้ตาย อิอิ จากนั้นก็รีบไปยื่นบัตรนัดที่เคาน์เตอร์พยาบาลเพื่อรับบัตรคิวอีก งวดนี้ได้ลำดับที่ 291 จากนั้น ก็ต้องกลับไปรอเจาะเลือดค่ะ แต่เราใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ อิอิ เนื่องจากมาโรงพยาบาลนี้จนชำนาญทำให้เรารู้ว่า วันศุกร์มักจะมีตลาดนัด ซึ่งได้เงินเราประจำ เราก็เลยไปเดินช๊อปปิ้งก่อน

กลับจากช๊อปปิ้ง มาที่หน้าห้องเจาะเลือด ก็ยังต้องรออีก 100 กว่าคิว ก็เลยเอา notebook มาเล่นเน็ต อิอิ เราเริ่มชำนาญไงคะ รู้ว่าจะต้องคอยแต่ละจุดนานแค่ไหน ก็เล่นไปเรื่อย จนได้คิวเราล่ะ กว่าจะได้เจาะเลือด 9.15 น. วันนี้ป้าพยาบาลเจาะเจ็บได้ใจจริง ๆ ขอบอก

เจาะเลือดเสร็จ รีบมาที่เคาน์เตอร์พยาบาล เพื่อชั่งน้ำหนัก วัดความดัน จากนั้นก็รอพบหมอค่ะ บริเวณนั้นจะมีคนไข้และญาติคนไข้มารอเป็นจำนวนมาก หาที่นั่งยากมาก ๆๆๆๆๆ ที่แออัดคับแคบสุด ๆ แต่เราชินแล้วค่ะ บางทีไม่มีเก้าอี้นั่ง จนต้องไปนั่งรอตามขั้นบันได บางทีก็ต้องยืนจนกว่าจะมีเก้าอี้ว่าง สภาพการณ์เหมือนเก้าอี้ดนตรีหนะค่ะ วันนี้เราโชคดีได้ที่นั่ง ก็เปิด notebook เล่นเน็ตอ่านโน่นนี่ไปเรื่อย จนได้ยินเสียงพยาบาลประจำห้องหมอเรียกชื่อเรา เรามาจนจำเสียงพยาบาลได้แล้วค่ะ เข้าไปแล้วไม่ใช่ว่าจะได้พบหมอเลยนะคะ พยาบาลจะเรียกคนไข้ไปนั่งรอเรียงลำดับที่หน้าห้องหมอก่อนค่ะ เพื่อความรวดเร็ว กว่าเราจะได้พบหมอก็ประมาณ 10.40 น.

พอได้พบหมอ ก็ปรากฎว่า ผลเลือดเรายังไม่ออก แต่ไม่เป็นไร หมออธิบายเรื่องยาตัวใหม่ให้ฟังก่อนค่ะ ยาตัวนี้จะมีผลข้างเคียง 3 ข้อคือ

1. อาจทำให้มือและเท้าบวม เท้าอาจบวมจนถึงขนาดใส่รองเท้าไม่ได้
2. จากการที่บวม ก็จะทำให้น้ำหนักขึ้น ซึ่งถ้าขึ้นมา 1-2 กิโล หมอบอกว่า ไม่เป็นไร
3. ยาตัวนี้จะทำให้ความดันต่ำลง ฉะนั้นอาจเกิดอาการหน้ามืด วิงเวียน ใจหวิว ๆ

ซึ่งผลข้างเคียงทั้งหมด ถ้าทนไหวก็ให้ทานยาต่อไป แต่ถ้าไม่ไหว ให้หยุดยาทันที โดยหมอจะเริ่มยาที่วันละ 1 เม็ดก่อน จากนั้น จึงค่อยเพิ่มเป็นวันละ 2 เม็ด ถ้าหากร่างกายรับยาที่ 2 เม็ดไม่ไหว ก็ให้ลดมาเหลือแค่ 1 เม็ด แต่ถ้าร่างกายรับยาตัวนี้ไม่ไหว ก็ให้หยุดทานทันที แสดงว่าร่างกายรับยาตัวนี้ไม่ได้ หมอสั่งยาให้เราทั้งหมด 84 เม็ดตามค่ารักษาพยาบาลของที่ทำงานที่ยังเหลือ ซึ่งตอนนั้นหมอบอกว่า ให้กินยาตัวใหม่ควบคู่ไปกับ hydrea โดยหมอก็สั่ง hydrea ให้ด้วย หมอบอกว่า อยากให้งด hydrea แต่ขอดูผลเลือดก่อน

คุยกับหมอเรียบร้อย ผลเลือดก็ยังไม่ออกมา ก็ต้องออกมานั่งคอยที่หน้าห้องหมออีก ประมาณ 11 โมง พยาบาลเรียกอีก ผลเลือดมาแล้ว ก็เข้าไปพบหมออีกรอบ หมอบอกว่า เกล็ดเลือดขึ้นมานิดเดียว แทบไม่ขึ้น แต่เม็ดเลือดขาวเริ่มดี ก็ให้งดยา hydrea เลย รวมถึงยาอื่น ๆ ที่ยังเหลือ ตอนนี้ให้ทานยาตัวนี้เท่านั้น

ออกจากห้องหมอ ก็ต้องมายื่นใบสั่งยาเพื่อชำระเงิน ที่ผ่านมาไม่เคยชำระเองเลยค่ะ ใช้สิทธิประกันสังคมมาตลอด นี่เป็นครั้งแรกที่ชำระเงินกับโรงพยาบาลนี้เลยค่ะ ค่อนข้างงงกับขั้นตอนเล็กน้อย แต่ที่นี่จะมีเจ้าหน้าที่ใส่ชุดสีชมพูเพื่ออำนวยความสะดวกและคอยแนะนำขั้นตอนต่าง ๆ อยู่ประจำแต่ละจุด เพื่อเราจะได้ไม่ต้องไปถามพยาบาล เราก็ดำเนินการตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่จนมารอรับยา ประมาณ 12.15 น. ได้รับยา ยาขวดนิดเดียว 18,819 บาท โห ถ้าหล่นน้ำไปสักเม็ดนะ ร้องไห้แน่เลย ตั้ง 220 บาท อิอิ

วันนี้เหน็ดเหนื่อยมาก กว่าจะถึงบ้านประมาณบ่ายสองโมง ฝนตก ๆ หาย ๆ ตลอด หิวก็หิว ยังไม่ได้ทานข้าวกลางวันเลย เพราะทุกครั้งเราใช้สิทธิประกันสังคม ขั้นตอนจะน้อยกว่าจ่ายเอง แค่ไปยื่นใบสั่งยาช่องสิทธิประกันสังคม แล้วก็ไปทานข้าวได้ เพราะตรงนั้นจะใช้เวลาเกือบชั่วโมง แต่วันนี้ต้องไปคิดราคายา ไปจ่ายเงิน แล้วถึงจะมารอยา แล้วเราก็ไม่รู้ว่าการรอยาสำหรับคนไข้จ่ายเงินเองจะใช้เวลาแค่ไหน เผื่อจะเร็ว (อันนี้แอบหวัง) เพราะอยากกลับบ้านเต็มทีค่ะ ฝนก็ตกไม่เลิก ไม่อยากตากฝนออกไปเปียกอีก สรุปแล้ว ใช้เวลาไม่ต่างกัน แล้วยังไม่ได้ทานข้าวอีก อิอิ เฮ้อออ....เหนื่อยค่ะ

เว็บบอร์ด โรคเกล็ดเลือดสูงโดยไม่ทราบสาเหตุ http://et.it-2u.com/

วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

อีกหนึ่งข้อมูลจาก cancerbackup.org.uk โดย LunaticNeko


ที่มา
http://www.cancerbackup.org.uk/Aboutcancer/Pre-cancerousconditions/Essentialthrombocythaemia

เกล็ดเลือดสูงโดยไม่ทราบสาเหตุ
(Essential thrombocythaemia / ET)

ET เรียกอีกอย่างว่า primary thrombocythaemia อยู่ในกลุ่มโรคไขกระดูกสร้างเซลล์มากผิดปกติเรื้อรัง (chronic myleoprofilerative diseases / CMPDs)

โรคไขกระดูกสร้างเซลล์มากผิดปกติเรื้อรังโรคไขกระดูกสร้างเซลล์มากผิดปกติเป็นกลุ่มอาการที่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของไขกระดูก เกิดจากการผลิดเซลล์เม็ดเลือดชนิดใดชนิดหนึ่งมากเกินไป นอกจากนี้ CMPD อาจพัฒนาไปเป็นลูคีเมีย (leukaemia) ได้

ประเภทหลักๆ ของ CMPD:
- เกล็ดเลือดสูงโดยไม่ทราบสาเหตุ (essential thrombocythaemia)
- เซลล์เม็ดเลือดแดงสูง (polycythaemia vera)
- เกิดพังผืดในไขกระดูก (chronic idiopathic myelofibrosis)

โรคลูคีเมียชนิด CML (Chronic myeloid leukaemia) ก็เป็นโรคประเภท CMPD ด้วย แต่มักถูกแยกออกไปเป็นกรณีอื่น

ไขกระดูก
ไขกระดูกเป็นเนื้ออ่อนในส่วนกลางของกระดูก ซึ่งจะสร้างเซลล์ประเภท "สเต็มเซลล์" (stem cells) โดยเซลล์เหล่านี้เป็นเซลล์ที่สามารถพัฒนาต่อไปเป็นเซลล์เลือดได้สามชนิด:
- เซลล์เม็ดเลือดแดง (Red blood cells) มีหน้าที่ลำเลียงออกซิเจนไปทั่วร่างกาย
- เซลล์เม็ดเลือดขาว (White blood cells) มีหน้าที่เป็นภูมิคุ้มกันและทำลายสิ่งแปลกปลอม
- เกล็ดเลือด (Platelets) ช่วยให้เลือดแข็งตัว เป็นการห้ามเลือด

เกล็ดเลือดสูงโดยไม่ทราบสาเหตุ
โรคเกล็ดเลือดสูงโดยไม่ทราบสาเหตุเป็นโรคที่ส่งผลกระทบต่อเซลล์ไขกระดูกที่สร้างเกล็ดเลือด โรคนี้เกิดกับใครก็ได้ แต่มักไม่ค่อยเกิดกับคนที่อายุต่ำกว่า 50 ปี ยังไม่ทราบการเกิดโรค ในบางท่านที่มีความผิดปกติของยีนส่วนที่เรียกว่า JAK2 อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เป็นโรคนี้ได้ ดังนั้น การตรวจหาความผิดปกติของ JAK2 จะช่วยให้วิเคราะห์อาการได้ง่ายขึ้น

อาการ
อาจไม่แสดงอาการอะไรเลย แต่ตรวจเลือดปกติแล้วพบว่ามีเกล็ดเลือดสูง

เกล็ดเลือดสูงจะทำให้เลือดแข็งตัวง่าย เกิดอาการเลือดไหลผิดปกติ (abnormal bleeding) เนื่องจากเกล็ดเลือดมีสภาพไม่สมบูรณ์ ทำงานไม่ได้

ในบางกรณีอาจเกิดการแข็งตัวของเลือด (thrombosis) ในหลอดเลือดดำ (vein) ซึ่งการแข็งตัวนี้เกิดได้ง่ายกับคนอายุ 60 ขึ้นไป คนที่เคยเป็นมาก่อนก็อาจเป็นซ้ำได้ด้วย อาการที่เกิดขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่เลือดแข็งตัว
- ขา ทำให้ปวดขา บวม ร้อน แดง (เรียกว่า deep vein thrombosis / DVT)
- สมอง ทำให้ปวดหัว วิงเวียน ในบางกรณีอาจร้ายแรงกว่านั้น เช่น หน้ามืด หรืออาการ TIA (transient ischaemic attacks [mini-strokes])
- หัวใจ ทำให้เจ็บหน้าอก และอาจรุนแรงถึงขั้นหัวใจล้มเหลว
- ปอด ทำให้เจ็บหน้าอก หายใจไม่สะดวก เรียกอาการนี้ได้ว่า pulmonary embolism

อาการเลือดออกผิดปกติก็มีได้ แต่ไม่ค่อยเกิด เช่น:
- เลือดกำเดาไหล
- ช้ำ
- เลือดออกทางช่องคลอดผิดปกติ- เลือดออกตามไรฟัน
หากเกิดอาการใดๆ กับท่าน กรุณาปรึกษาแพทย์หรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางเลือด (haematologist)

การดูแลรักษา
เป้าหมายของการดูแลคือต้องควบคุมจำนวนเกล็ดเลือดและลดความเสี่ยงต่อการอุดตันของหลอดเลือด เลือดไหลผิดปกติ หรืออาการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกัน คนที่เป็น ET ที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจะไม่แตกต่างจากคนอื่นๆ มากนัก

ถ้าตรวจพบ ET แต่ไม่เกิดปัญหา ก็ไม่ต้องทำอะไร แต่หมอจะเป็นคนตรวจและแจ้งถ้ามีปัญหา

แอสไพริน ใช้ควบคุมการรวมตัวของเกล็ดเลือด จึงป้องกันไม่ให้หลอดเลือดอุดตันได้ แต่ไม่ช่วยลดเกล็ดเลือด ผลข้างเคียงคือจะเพิ่มความเสี่ยงของเลือดออกและโรคกระเพาะ ถ้าต้องใช้แอสไพรินเพื่อแก้ปวดควรเปลี่ยนเป็นพาราเซตามอลแทน

เคมีบำบัด (Chemotherapy) ใช้สารยับยั้งมะเร็งในการทำลายเซลล์มะเร็ง ซึ่งสารนี้ถูกนำมาใช้ลดเกล็ดเลือดได้

ยาที่ใช้เป็นปกติคือ hydroxyurea เป็นยาเม็ด อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงเล็กน้อยเช่นโลหิตจาง คลื่นไส้ ติดเชื้อในช่องปาก ท้องร่วง และภูมิคุ้มกันต่ำ นอกจากนี้ยังอาจทำให้เกิดผลกระทบกับการมีลูก ดังนั้นผู้ที่กิน hydroxyurea ไม่ควรมีบุตร (ไม่ว่าแม่หรือพ่อ) เนื่องจากจะทำให้เกิดความเสี่ยงกับตัวอ่อนได้ ถ้าใช้ยานี้อย่างต่อเนื่องอาจทำให้ ET กลายเป็น leukemia ได้

ยาอีกตัวคือ busulfan ซึ่งเป็นเม็ดหรือฉีดเข้าหลอดเลือดดำ ให้ผลข้างเคียงคล้าย hydroxyurea

Interferon-alpha Interferon เป็นโปรตีนที่เกิดขึ้นปกติในร่างกาย แต่ทำเป็นยาก็ได้ โดยยานี้จะไปกระตุ้นภูมิคุ้มกันและลดการก่อตัวของเกล็ดเลือด ใช้ฉีดใต้ผิวหนังสามครั้งต่อสัปดาห์ ทำให้เกิดอาการป่วยเช่นอ่อนเพลียมาก วิงเวียน

Anagrelide ลดเกล็ดเลือดโดยเฉพาะ เป็นแคปซูล ทำให้ปวดหัว รู้สึกหัวใจเต้นเร็ว (palpitations) ยังไม่พบผลกระทบต่อการมีลูกหรือการพัฒนาไปเป็นลูคีเมีย บทบาทของยานี้ยังไม่ชัดเจนและยังใช้ในสหราชอาณาจักรไม่ได้ ดังนั้น การจะใช้ได้ต้องทำเป็นการทดลองยาและต้องอยู่ในดุลยพินิจของแพทย์เท่านั้น

ฟอสฟอรัสกัมมันตรังสี (Radioactive phosphorus / 32P) อาจนำมาใช้รักษา ET ได้ โดยฉีดเข้าหลอดเลือดดำ ซึ่งจะไปส่งผลกระทบกับไขกระดูก ลดจำนวนเกล็ดเลือด

ทั้งนี้ หากมีข้อสอบถามใดๆ ควรถามแพทย์หรือพยาบาล

การทดลองทางคลินิก (Trials)
การวิจัยหาทางรักษา ET ยังมีอยู่เรื่อยๆ

ในสหราชอาณาจักรมีการทดลองอยู่สองแนวทาง
แนวทางแรกใช้แต่แอสไพริน และแอสไพรินกับ hydroxyurea

อีกแนวทางหนึ่งมีชื่อว่า MRC PT1 ใช้
- แอสไพริน กับ แอสไพริน + hydroxyurea
- แอสไพริน + hydroxyurea และ แอสไพริน + anagrelide

ท่านอาจถูกขอให้ร่วมการทดลองด้วย
ก่อนจะเริ่มทดลองได้ต้องได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการจริยธรรมก่อน ซึ่งจะรักษาผลประโยชน์ของผู้ร่วมทดลองทุกฝ่าย ก่อนจะเริ่มการทดลอง แพทย์จะต้องคุยเรื่องนี้กับท่านก่อนเพื่อให้เกิดความเข้าใจว่าจะทำอะไรบ้าง ท่านมีสิทธิ์ปฏิเสธหรือยกเลิก ซึ่งหลังจากนั้นก็จะได้รับการรักษาด้วยวิธีปกติต่อไป

ความรู้สึกและกำลังใจ
หลายท่านที่เป็น ET อาจไม่มีผลอะไรทางจิตใจมากนัก แต่บางคนก็อาจทำให้เกิดความกลัวได้มากเช่นกัน
โรงพยาบาลบางแห่งมีบริการช่วยเหลือทางด้านอารมณ์อยู่แล้ว โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เข้าใจและได้รับการฝึกเป็นอย่างดี

เอกสารอ้างอิง

This section has been compiled using information from a number of reliable sources including:

Thrombocytosis and Essential Thrombocythaemia. Dr C Harrison and Prof S Machin. http://www.netdoctor.co.uk/
Wintrobe’s Clinical Haematology (11th edition). Eds R Eds Lee et al. Williams and Wilkins, 2004.
Essential Haematology (5th edition). Eds Hoffbrand et al. Blackwell Scientific Publications, 2006.

For further references, please see the general bibliography.
------------------------


ตรวจทานเนื้อหาล่าสุด 1 เมษายน 2551อันนี้ผมไปแปลมาแบบค่อนข้างจะสรุปนะครับ ถ้าไม่แน่ใจก็ไปอ่านภาษาอังกฤษได้เลย (ไม่ค่อยถนัดศัพท์แพทย์ครับ นั่งหาอยู่นานว่าจะใช้คำไหนดี)

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13 พฤษภาคม, 2009, 20:44:50 โดย LunaticNeko »

เว็บบอร์ด โรคเกล็ดเลือดสูงโดยไม่ทราบสาเหตุ http://et.it-2u.com/

วันเสาร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

เปิดเว็บบอร์ดค่ะ

ห่างหายไปนานเลยค่ะ มัวแต่ยุ่ง ๆ กับหลายเรื่อง พอเข้ามาหาข้อมูลเรื่องยาตัวใหม่ที่คุณหมอจะเปลี่ยนให้ทานกลางเดือนพ.ค. นี้ เพราะเม็ดเลือดขาวเราต่ำอย่างต่อเนื่อง เราก็เลยได้มาเจอกระทู้เก่า ๆ ที่เคยตั้ง ปรากฎว่ามีหลายท่านเข้ามาตอบ ทำให้เรารู้ว่า มีหลายท่านที่กำลังป่วยด้วยโรคนี้ http://healthnet.md.chula.ac.th/cyber_board/room5/messages/3895.html และพยายามหาข้อมูลเหมือนครั้งหนึ่งที่เราเคยพยายามมาแล้ว แต่ทุกท่านไม่ได้ให้ e-mail address ไว้ เราเลยเข้าไปตั้งกระทู้ตามหาในพันทิป http://www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L7817127/L7817127.html

เราคิดต่อไปว่าจะทำอย่างไรที่จะช่วยเหลือเรื่องข้อมูลซึ่งกันและกันได้ ก็เลยแบ่งพื้นที่จากงานของเราเองเปิดเว็บบอร์ดนี้ http://et.it-2u.com อย่างน้อยก็ได้เป็นพื้นที่ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกัน เราจะเอาข้อมูลเกี่ยวกับโรคและยาขึ้นไว้นะคะ

บุญรักษาและเป็นกำลังใจให้ทุกท่านค่ะ