วันอาทิตย์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2551

มาตามนัด ฟังผลสแกน

4 เม.ย. 51 ตามกำหนดหมอนัดอีกล่ะ ไปเจาะเลือด แล้วมารอคิวเหมือนเดิม แต่วันนี้จะได้รู้ผลสแกนแล้ว วันนี้คนน้อยดีจัง เพราะเป็นวันหยุดยาว วันจักรีหนะ เราเลยได้คิวเร็วเลย 10 โมง ก็ได้พบหมอล่ะ พอไปถึงหน้าห้องหมอ พยาบาลให้ไปเอาผลสแกนอีก เสียเวลาอีกครึ่งชั่วโมง เวงกำ

สิบโมงครึ่ง ไปพบหมอ หมออ่านผลเลือดมีสีหน้ากังวลเล็กน้อยแล้วบอกว่า เกล็ดเลือดลงมากไป ดึงให้เม็ดเลือดขาวต่ำไปด้วย หมอว่า คราวนี้เกล็ดเลือดเหลือ 538,000 (เดิม 1,200,200) ส่วนเม็ดเลือดขาวต่ำมาก เหลือแค่ 2,800 (เดิม 4,200) ซึ่งเดิมต่ำกว่ามาตรฐานอยู่แล้ว มาตรฐานต้อง 4,500 ตอนนี้เหลือน้อยที่สุดตั้งแต่ป่วยมา

หมอบอกว่า ต้องลดยา hydrea ล่ะ เหลือแค่วันละเม็ด เพื่อให้เม็ดเลือดขาวขึ้นมากกว่านี้ ส่วนแอสไพริน ต้องกินต่อไป วันละเม็ด

ส่วนผลของการสแกน หมอบอกว่า จุดในตับไม่มีปัญหา แต่มดลูกโตนะ อ้าว...เวงกำ ไม่เป็นโน่น ก็เป็นนี่ หมอบอกว่า ดูอาการไปก่อน

มานั่งรอยา เบื่อมาก ๆ แล้วนะ กะที่เป็นเนี่ย นึกอยู่เหมือนกัน ว่าเม็ดเลือดขาวต้องต่ำแน่ เพราะอาการเจ็บลดลงแทบไม่เหลือ แสดงว่า เกล็ดเลือดต้องลง แล้วเม็ดเลือดขาวก็ต้องลงไปด้วย เพียงแต่ไม่คิดว่าจะต่ำมากขนาดนี้ เฮ้อออออ...

นั่งรถกลับบ้าน มันคุ้น ๆ นะ มดลูกโตนี่ สักพักก็นึกได้ เออ..แม่ก็เป็นนี่นา ตัดไปแล้ว รู้สึกว่า ตอนอายุประมาณเนี้ย อ่อ กรรมพันธุ์ซะอีก

สิ่งที่คิดถัดมาคือ ต้องจัดการเรื่องเม็ดเลือดขาวต่ำ ต้องระวังไม่ให้ติดเชื้อล่ะ ไม่งั้นแย่แน่ ไปไหนก็ต้องพกผ้าเช็ดหน้าล่ะ เลี่ยงที่ชุมชน ที่ทำให้มีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย เป็นแบบนี้ ก็ไม่ต้องไปไหนกันล่ะ อยู่แต่บ้าน กะไปทำงานก็พอ

กลับถึงบ้าน รู้สึกว่าใจมันนิ่งกว่าเดิมเยอะเลย ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะหมอ หมอคนนี้ทำให้เราสบายใจขึ้นกว่าเดิม ทั้ง ๆ ที่เม็ดเลือดขาวไม่เคยต่ำขนาดนี้ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกแย่ หรืออาจเป็นเพราะทำใจไว้แล้วเพราะรู้ว่ามันต้องต่ำ

แต่อีกส่วนหนึ่งอาจมาจากเริ่มยอมรับกับโรคได้มากขึ้น ก็รู้จักกันมาเกือบปีล่ะ ไม่ให้ยอมรับกันได้ยังไง โดยเฉพาะน้องเกล็ดเลือดเนี่ย สนิทกันเป็นพิเศษเลย อาการเจ็บที่โคนเล็บนิ้วโป้งซ้ายที่เป็นมาสักสองสามเดือนก็ยังเป็นอยู่ตลอด พอเตือนให้รู้ว่ากำลังป่วยนะเนี่ย

นัดหน้าเจอกัน 13 มิ.ย. ครบปีล่ะนะ น้องเกล็ดเลือด แล้วยังนัดใกล้วันสำคัญเราซะด้วย แม๊...ยังงี้ต้องฉลองใหญ่

ไม่มีความคิดเห็น: