วันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550

ไม่เคยคิด

เราเป็นคนที่มีสุขภาพแข็งแรงดี ไม่ค่อยเจ็บป่วย อาการปวดหัวตัวร้อน หรือเป็นไข้หวัดใน 1 ปีนับครั้งได้เลยนะคะ ชอบเล่นกีฬามาตั้งแต่เด็ก ปัจจุบันก็ออกกำลังกายด้วยการวิ่งบ้าง และสิ่งที่เราทำเป็นประจำทุกปี คือ การตรวจสุขภาพประจำปี ดังนั้น ปีนี้เราก็ปฏิบัติเหมือนที่ผ่านมา เมื่อวันพุธที่ 29 พ.ค. 50 เราไปตรวจร่างกายประจำปีที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง

เราก็ไปแต่เช้าเหมือนเดิม ในใจก็คิดว่า รีบ ๆ ไปจัดการให้เสร็จจะได้รีบ ๆ กลับ แต่ก็ยังต้องใช้เวลาพอสมควร กว่าจะกลับมาให้หมออายุรกรรมอ่านผลตรวจก็ปาเข้าไปบ่ายสามโมงกว่า พอเข้าไปนั่งฟังผลตรวจ หมอบอกว่า เกล็ดเลือดเราสูงมากกว่าปกติ ถามเราว่า เราอยู่รอพบหมอเลือดก่อนได้มั้ย หมอเลือดจะมาประมาณ 6 โมงเย็นแล้วอาจต้องเจาะไขกระดูกด้วย หมอบอกว่า เกล็ดเลือดเราสูงถึงเกือบล้านห้า ซึ่งคนปกติจะต้องไม่เกินสี่แสนห้า แล้วระหว่างที่รอหมอเลือด หมอจะต้องให้ lab เช็คเพิ่มเติมจากเลือดที่เจาะไปเมื่อเช้า เราก็คิดว่าเออเป็นไรหว่า นึกว่าจะได้รีบกลับบ้าน แต่ให้รอหมอเลือดก็รอ ไม่อยากต้องมาอีกรอบ แล้วหมอก็ดูประวัติย้อนหลัง พบว่า เรามาตรวจสุขภาพที่นี่เมื่อปี 48 เกล็ดเลือดเราอยู่ที่ประมาณ 600,000 หมอบันทึกไว้ว่า เกล็ดเลือดสูงกว่าปกติ แต่เมื่อปี 49 เราไปตรวจที่โรงพยาบาลอีกแห่งหนึ่ง เพราะมีเหตุจำเป็นเล็กน้อย ทำให้ไม่ได้กลับมาตรวจที่นี่ หมอบอกว่า ให้เราเอาบันทึกการตรวจของที่นั่น แล้วมาพบหมออีกครั้ง เราก็รับคำแล้วก็ออกไปนั่งรอหมอเลือด ระหว่างรอก็นั่งคุยโทร.กับเล่นเน็ตไปเรื่อย พอดีเราเอา note book ไปด้วยค่ะ ตั้งใจว่า หาหมอแล้วจะเข้าไปที่ มศว (เราเรียนปริญญาเอกอยู่ วันนั้นนัดน้องไปทำรายงานกันตอนเที่ยง) โชคดีที่โรงพยาบาลมีสัญญาณ wireless ตอนแรกกะว่าจะนั่งทำงานระหว่างรอ ปรากฎว่า เจอสัญญาณ wireless เลยไม่ทำงานล่ะ เล่นเน็ตดีกว่า

สักห้าโมงเย็น ก็เห็นหมออายุรกรรม เดินไปมา ดูหมอยุ่งจังน้อ สักพักหมอก็มาเรียกเรา บอกว่า ส่งผลไปตรวจเพิ่มอยู่นะ ให้เรารอผลสักครู่ เรายังบอกหมอว่า "แหม ขึ้นมาตั้งล้านห้า ถ้าเป็นเงินก็ดีสิคะ รวยเลย" แล้วเราก็หัวเราะ แต่หมอไม่ยักหัวเราะ แค่ยิ้ม ๆ แล้วหมอก็เดินไป เราก็กลับมานั่งคุยโทร.ต่อ ในใจตอนนั้นไม่ได้คิดว่าเป็นอะไรมากมาย

อีกสักพัก หมอมาเรียกอีกแล้ว คราวนี้ผลตรวจเลือดเพิ่มเติมออกมาแล้ว หมอบอกว่า ส่งไปตรวจค่าของมะเร็ง ปรากฎว่า ไม่พบ (เฮ้อ ค่อยยังชั่ว) แต่จากการพบจุดขาว ๆ ในตับ หมออยากให้ตรวจเช็คให้ละเอียดอีกครั้ง แล้วหมอก็นัดหมอเฉพาะทางให้เราเอาฟิล์มไปพบวันหลัง

ประมาณเกือบหกโมงหมอเลือดก็มา เรียกเราเข้าไปคุย หมอว่า เกล็ดเลือดเราสูงมากกว่าคนปกติ คนปกติต้องเท่านี้นะ (อันนี้เรารู้แล้วล่ะ เพราะหมออายุรกรรมบอกแล้ว) หมอถามว่า เจ็บปลายนิ้วมือนิ้วเท้ามั้ย เราว่า ใช่ เราเจ็บ ตอนที่เจ็บยังแปลกใจอยู่ว่าเป็นอะไร หมอถามว่าเจ็บมานานหรือยัง เราว่า เริ่มเจ็บเมื่อประมาณเดือนนึงแล้วล่ะ หมอถามว่า ปวดข้อมั้ย เราว่า ไม่ค่อยอ่ะค่ะ หมอเลือดบอกต่อว่า อาจเป็น SLE นะ แต่ถ้าให้ชัดเจนก็ต้องเจาะไขกระดูกเพื่อวินิจฉัยว่าเป็นอะไรแน่ เราเคยได้ยินมาว่า เจาะไขกระดูกมันน่ากลัวแล้วก็เจ็บมาก แต่อารมณ์ตอนนั้นมันเหมือน เป็นไงเป็นกันบวกกับอยากรู้ด้วย เราบอกหมอเลยว่า เจาะเลยค่ะเจาะเดี๋ยวนี้เลยมั้ย หมอบอกว่า เอาไว้ค่อยนัดมาเจาะอีกที นัดเป็นวันศุกร์แล้วกัน เราก็โอเคตามนั้น ยังถามหมออีก ว่าวันเจาะไขกระดูกมาคนเดียวได้มั้ย หมอเลือดบอกว่า คุณไม่มีญาติพี่น้องเลยเหรอ เอาใครมาเป็นเพื่อนสักคนดีกว่า เราบอกหมอว่า เราเกรงใจ เค้าต้องทำงาน แค่เราเจาะไขกระดูกเอง หมอยังยืนยันว่า ให้เอาใครมาเป็นเพื่อนสักคนดีกว่า หมอบอกว่า อยากได้ประวัติการตรวจร่างกายปีที่แล้วเหมือนกัน กลับมาถึงบ้าน รีบหาบันทึกประวัติการตรวจของปีที่แล้ว ที่เราไปตรวจกับโรงพยาบาลเอกชนอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งโชคดีที่เราเก็บไว้ ปรากฎว่า เกล็ดเลือดปี 49 สูงถึง 997,000 แต่ท้ายเล่มหมอเขียนว่าปกติ

จากนั้นก็ หาข้อมูลเกี่ยวกับ SLE ตอนนั้นก็เริ่มใจไม่ค่อยดีแล้ว เพราะเรารู้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องโรคนี้มาบ้าง เรารู้จักในชื่อโรคว่า โรคพุ่มพวง เป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง หลังจากเสร็จภารกิจส่วนตัวก็ตั้งหน้าตั้งตาหาข้อมูลเลย หาไปเรื่อย ๆ เราว่า เราไม่น่าเป็นโรคนี้ เพราะโรคนี้ต้องเกล็ดเลือดต่ำ แต่เราเกล็ดเลือดสูง เราเลยเปลี่ยนเป้าหมายใหม่ หาข้อมูลเกี่ยวกับโรคที่มีเกล็ดเลือดสูง ปรากฎว่ามีข้อมูลน้อยมาก น้อยจริง ๆ จนเราคิดแบบขำ ๆ ว่า สงสัยเราต้องเป็นคนพิเศษแน่ ๆ คนพิเศษอย่างเราจะเป็นโรคแบบธรรมดาที่คนอื่นเค้าเป็นกันได้ยังไง เราต้องเป็นโรคที่พิเศษสิ ถึงจะสมที่เป็นเรา เมื่อหาข้อมูลไม่ได้ เราเลยลองเข้าไปตั้งกระทู้ในพันทิป เผื่อจะมีใครที่พอให้คำตอบเราได้บ้าง ก็มีคนมาให้กำลังใจบ้าง แต่ไม่มีใครให้คำตอบเราได้เลย

พอถึงวันหมอเลือดนัดเจาะไขกระดูก ตื่นเต้นนะ วันนี้จะได้เจาะไขกระดูกแล้ว ได้รู้ซะทีว่า เป็นอะไรหลังจากที่อยู่กับคำถามว่า เราเป็นอะไรแน่มาเกือบสองวัน ถ้าถามว่ากลัวการเจาะไขกระดูกมั้ย ตอบเลยว่า ลึก ๆ ก็กลัวนะ แต่กลัวก็ต้องเจาะ ไม่กลัวก็ต้องเจาะ เลยไม่รู้ว่าจะกลัวทำไม แล้วถ้ามัวแต่กลัวก็จะไม่รู้ว่าเป็นอะไร คือ ความอยากรู้มันมากจนกลบความกลัวหมด

ถึงโรงพยาบาล แหม หมอเลือดมาตรงเวลาดีแท้ บริเวณที่หมอเจาะคือ กระดูกสะโพกบนด้านซ้าย หมอเจาะเอง ก็เจ็บดีนะตอนเจาะ แต่พอหลังจากเจาะนี่สิ มันเหมือนขาซ้ายไม่ค่อยมีแรง เหมือนมันร้าวทั้งขา ก็เป็นประสบการณ์หนึ่งในชีวิตนะ เสร็จแล้วก็มานั่งรอผล ระหว่างรอ นั่งเล่นเน็ตไปด้วย คลายเครียด สักพักพยาบาลก็มาเรียกให้ไปพบหมอ ได้รู้ซะทีละว้อย

หมอท่าทางเคร่งขรึมดี มีเอกสารในมือหมอหลายแผ่นอยู่ เราเอาประวัติการตรวจปีที่แล้วมาให้หมอด้วย หมอบอกว่า เราเป็นโรคเกล็ดเลือดสูงโดยไม่ทราบสาเหตุ บอกชื่อโรคเป็นภาษาอังกฤษมาด้วย (เราก็นึกในใจมันมีด้วยเหรอโรคนี้ แล้วถ้าหมอยังไม่ทราบสาเหตุ แล้วเราจะรู้มั้ยเนี่ย อ่ะ ฟังหมอต่อ) เกิดจากการทำงานผิดปกติของไขกระดูก ซึ่งสร้างเกล็ดเลือดมากเกินไป โรคนี้คนเป็นน้อยมาก ในหนึ่งปีหมอพบไม่เกิน 2 ราย (นั่น เราว่าแล้ว เราต้องเป็นแบบพิเศษ เป็นแบบธรรมดาเหมือนคนอื่นได้ยังไง) ไม่เป็นในคนอายุน้อย มักพบในคนอายุ 50 ปีขึ้นไป (เราอายุ 40 ปีค่ะ) ยังไม่มียารักษาโดยตรง เป็นโรคที่ไม่มีทางรักษาให้หายได้ และต้องกินยาเพื่อควบคุมเกล็ดเลือดและต้องมาเจาะเลือดเพื่อดูปริมาณเกล็ดเลือดไปตลอดชีวิต จะบอกว่า เป็นมะเร็งชนิดหนึ่งก็ได้ (โห หูอื้อแล้วอ่ะ นาทีนั้น) รู้ตัวแต่ว่า ต้องยิ้มสู้ล่ะ ยิ้มแล้วตั้งสติ ตั้งใจฟังด้วย เดี๋ยวไม่รู้เรื่อง หมอบอกต่อว่า มียา 3 ตัว ที่ใช้กับโรคนี้

ยาตัวแรกเป็นยาฉีด เกล็ดเลือดจะลดลงทันที แต่มีผลข้างเคียงคือ จะปวดตัวมากเหมือนเป็นไข้ มีคนที่เลือกรักษาด้วยยาตัวนี้ แต่ทนผลข้างเคียงไม่ไหวเลยเลิกไป ค่าใช้จ่ายอยู่ที่เดือนละ 100,000 บาท (แต่เราคิดในใจว่า ที่ไม่ไหวสงสัยจะเป็นเดือนละแสนเนี่ยแหละ)

ยาตัวที่สอง ราคาไม่สูงมาก เป็นยาเม็ดแคปซูล ซึ่งจะทำให้เกล็ดเลือดค่อย ๆ ลดลง แต่ก็มีผู้ป่วยด้วยโรคนี้และกินยาตัวนี้ ต่อมาเป็นลูคีเมีย ซึ่งยังไม่มีงานวิจัยที่สรุปได้ชัดเจนว่า เป็นผลจากยาตัวนี้หรือเป็นเพราะโรคที่พัฒนาต่อ จึงทำให้เป็นลูคีเมีย

ยาตัวที่สาม เป็นยาเม็ดเหมือนกัน แต่ต้องสั่งจากอเมริกา ราคาสูงเหมือนกัน ขั้นตอนการสั่งค่อนข้างยุ่งยาก เพราะไม่มีตัวแทนในประเทศไทย

สรุปแล้ว หมอให้เราเลือกว่าเราจะใช้ยาตัวไหน แต่ยาตัวที่สาม หมอไม่แนะนำ เพราะยุ่งยากในการสั่งซื้อ งั้นตัดไปเลยตัวที่สาม ก็เหลือตัวแรกกับตัวที่สอง ซึ่งตัวแรกเราไม่ไหวแน่ ๆ ไม่ใช่เพราะผลข้างเคียงของยา แต่เราจนตายก่อนตายเพราะโรค เลยสรุปที่ ยาตัวที่สอง นัดอีกครั้งคือ อีก 3 อาทิตย์มาเจอกันเพื่อเจาะเลือด

สุดท้าย หมอบอกว่า ไม่ต้องถามหมอนะว่าอยู่ได้อีกกี่ปี ถ้าดูแลตัวเองดี ๆ ก็อยู่ได้เป็นสิบปี บางทีคนที่แข็งแรงกว่ายังตายก่อน (โห หมอให้กำลังใจน่าดูเลย) เราถามว่า ต้องดูแลอะไรเป็นพิเศษมั้ย เช่นเรื่องอาหาร หมอบอกว่า ทานได้ทุกอย่าง ไม่มีปัญหา ที่ต้องระวังคือ ปริมาณเกล็ดเลือดที่สูง อาจไปอุดตันปลายประสาท ซึ่งเป็นเหตุให้เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต ได้

ระหว่างทางกลับบ้าน คิดทบทวนสิ่งที่หมอพูดทุกอย่างอีกหลายรอบ ขาก็เริ่มปวดมากขึ้น กลับเข้าบ้านก่อน ทานข้าวกลางวันเสร็จ ตอนนั้นคิดว่าถ้าอยู่บ้าน ต้องคิดมาก ฟุ้งซ่านแน่ ๆ มาที่ทำงานดีกว่า เลยขับรถมาทำงานอีก รถเราเป็นเกียร์ธรรมดาอ่ะ เวลาเปลี่ยนเกียร์ทีก็ทรมานขาซ้ายดี ยังอุตสาห์ขับมาได้ถึงที่ทำงาน ระหว่างขับรถมา น้ำตาพาลจะไหล แต่กลั้นไว้ก่อน ไม่งั้นเดี๋ยวมองถนนไม่เห็น จะพาลตายเพราะรถชนไม่ได้ตายเพราะโรค

มาถึงที่ทำงานก็ไปเล่าให้พี่ตุ่น ซึ่งเป็นพี่ที่เรารักและเคารพมาก ๆ ฟัง เราก็คิดถูกนะที่ไม่อยู่บ้าน เพราะเวลานั้นถ้าอยู่บ้านคนเดียวคงคิดมาก มาที่ทำงานได้คุยกัน มันเหมือนทำให้เราผ่อนคลายด้วย

วันเสาร์ อยู่บ้านทั้งวัน เราไม่ได้เตรียมสอน ก็เลยนั่งหาข้อมูลจากเน็ตไปเรื่อย วันนั้นทั้งวัน ก็ไม่ได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคที่เป็น จนประมาณสี่ทุ่ม เราเอาชื่อยาที่หมอให้มาหาในเน็ต เราเป็นคนชอบหาข้อมูลค่ะ เป็นพวกอยากรู้ สงสัยไปหมด เวลาหาหมอ หมอให้ยา เราจะหาข้อมูลประจำ ว่ามันคือยาอะไร เพื่อศึกษาอย่างละเอียด ปรากฎว่า ยาที่หมอให้มา hydrea เราไปเจอข้อมูลว่า hydroxyurea, is a chemotherapy drug that is given as a treatment for some types of cancer. It is used to treat a type of leukaemia known as chronic myeloid leukaemia, cancer of the cervix and some pre-cancerous conditions. เราอ่านอยู่หลายเว็บ สรุปก็คือ เป็นยาที่ใช้ยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็ง เรารีบโทร.หาสามีพี่แป้น (พี่แป้น เป็นพี่ที่ทำงานเรา ที่เรารักและเคารพมากเช่นกัน สามีพี่แป้นเป็นหมอ) ว่ายาที่เราได้รับมาคืออะไร เราเป็นอะไรแน่ เราอ่านข้อมูลจากเน็ตแล้ว พี่หมอบอกว่า มันเป็นยายับยั้งเซลล์มะเร็งจริง พี่เค้าให้คำแนะนำในเบื้องต้นว่า ตอนนี้ให้เราดูแลเรื่องอาหาร ออกกำลัง แล้วก็นั่งสมาธิ

ตกลงเราเป็นอะไรแน่ จากยาที่ให้กิน หมอเลือดบอกว่า เป็นโรคเกล็ดเลือดสูงโดยไม่ทราบสาเหตุ จัดเป็นมะเร็งอย่างหนึ่ง ซึ่งน้ำเสียงของหมอเหมือนไม่ใช่เรื่องซีเรียส แล้วก็บอกเราว่าไม่ต้องกังวล ยาที่ให้เป็นยาลดเกล็ดเลือด แต่ข้อมูลจากยาที่เราได้อ่ะ เป็นใคร ใครจะไม่กังวล คืนนั้นเลยนั่งหาข้อมูลเกี่ยวกับโรคมะเร็งโดยเฉพาะ หาจนถึงเกือบตีสอง นั่งหาไป น้ำตาไหลไป สุดท้ายนอนดีกว่า นอนก็ไม่หลับอีก.....

คิดไปสารพัด แต่สิ่งที่ต้องคิดหนักคือ ถ้าเป็นอย่างที่หมอบอกว่า โรคนี้รักษาไม่หาย ต้องกินยาแบบนี้ไปตลอด และต้องเจาะเลือดทุกเดือน ถ้ายังรักษาโรงพยาบาลเอกชน สงสัยหมดตัวตายก่อนเป็นโรคตาย เลยต้องคิดล่ะ ว่าจะเอายังไงดี ฉะนั้น ต้องย้ายโรงพยาบาล ทีนี้ก็ต้องหาข้อมูลเกี่ยวกับโรงพยาบาลรัฐที่จะดูแลเราจากโรคนี้ได้จนกว่าเราจะตาย เราเลยปรึกษาพี่ตุ่น กับพี่แป้น พี่สองท่านก็เป็นธุระหาข้อมูลเพิ่มเติมให้ และให้คำแนะนำอีกหลายอย่างและพร้อมให้ความช่วยเหลือถ้าจะย้ายโรงพยาบาลด้วย

20 ความคิดเห็น:

ann กล่าวว่า...

สวัสดีค่ะ เป็นกำลังใจให้หายนะคะ อัญก็มีพี่สาวที่พึ่งทราบข่าวว่าเป็นลูคีเมียเหมือนกัน ตอนแรกที่รู้เสียใจมากร้องให้หลายวันตาบวมไปหมดกินยาhydrea เหมือนกันค่ะ ตอนะแรกเม็ดเลือดขาวสูงมากพอกินยาเม็ดเลือดขาวลดจนปกติ แต่เกร็ดเลือดสูงล้านนึงแทน ตอนนี้ต้องระวังมากๆๆเลย ถ้าพี่มีข้อแนะนำอย่างไรช่วยบอกด้วยนะคะ เพราะเป็นห่วงเค้ามากและขอให้พี่หายป่วยค่ะ ann_chalee@yahoo.com

Unknown กล่าวว่า...

เป็นกำลังใจให้นะค่ะ เราเป็นโรคเดียวกัน ดิฉันเพิ่ง
จะได้อ่านเรื่องของคุณ แต่คิดว่านะวันนี้คุณคงทำใจได้บ้างแล้วนะคะ ดิฉันเองปว่ยเป็นโรคเกล็ดเม็ด
เลือดสูงถึง952000และทุกๆ2เดือนจะต้องไปเจาะ
เลือดและมีโรคโลหิตจางเรื้อรัง ขาดธาตุเหล็กและ
อ็อกชิเจนในเลือดน้อยกว่าคนปกติเพราะเม็ดเลือดแดงเล็กกว่าคนปกติ และดิฉันใช้ชีวิตในฝรั่งเศษคนเดียวเพื่อรักษาโรคทั้งหมดนี้ และยากจะบอกคุณว่าอย่าท้อนะคะ ในเมื่อเขามาอยู่กับเราๆก็เรียนรู้หาวิธีที่จะอยู่กับเขา ใหม่ๆดิฉันก็กินไม่ได้นอนไม่หลับเหมือนคุณ แต่ตอนนี้สบายมากค่ะ
ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ bameepoohparis@gmail.com

MaiJadZaa กล่าวว่า...

เพื่อนหนูอายุ20 แล้วเป็นโรคเดียวกันกับคุณค่ะ แต่ปริมานเกล็ดเลือดของเค้าไปถึง สองล้านกว่าๆแล้ว ทั้งๆ ที่อายุยังน้อยอยู่เลย
หนูรู้จักกับเค้า ตอนม.4 ถึ. ม.5 แล้วช่วงนั้น เวลาที่เค้าโดนตีเบาๆ หรือกระแทกอะไรนิดหน่อย ตัวเค้าก็จะเป็นรอยแดงๆขึ้นมา หนูก็ถามว่า ทำไมเธอเป็นแบบนี้ล่ะ เค้าบอกว่า ขาดวิตามินอะไรซักอย่าง(หนูจำไม่ได้อะค่ะ)เลยขึ้นรอบแดงๆง่ายๆ และด้วยความที่เป็นวัยรุ่นเลยไม่เคยไปตรวจสุขภาพประจำปี หลังจากนั้น ตอนม.5เทอมสอง เค้าก็ออกจากโรงเรียนไปเลยขาดการติดต่อกัน แล้วเมื่อไม่กี่วันก่อนบังเอิญมาเจอกันอีก เค้าเลยเล่าเรื่องโรคที่เค้าเป็นให้ฟัง บอกว่า เมื่อสองสามเดือนก่อน ทำงานอยู่ดีๆก็เกิดปวดหัวขึ้นมา เลยไปพบหมอ แล้วหมอก็เอาเลือดเค้าไปตรวจด้วย พอผลตรวจออกมา หมอก็ขอพบญาติเค้า แล้วก็บอกว่า เค้าเป็นโรคเกล็ดเลือดสูงโดยไม่ทราบสาเหตุ หนูก็ถามว่า เป็นไรมากมั๊ย เค้าบอกอาการเค้า เท่าที่ฟังมา เหมือนกันกับคุณมากๆเลยค่ะ กินอาหารได้ทุกๆอย่าง แต่ห้ามระวังเป็นแผล แล้วก็กินยาคล้ายๆกับที่คุณกิน(หนูคิดว่าน่าจะเป็นยาตัวเดียวกันนะคะ เพราะเห็นว่าเป็นยาที่ใช้กับโรคมะเร็งเหมือนกัน)ต้องไปพบหม ทุกๆเดือน หนูเป็นห่วงเค้ามากๆ เพราะพวกเราเพิ่งจะอายุ20กันเอง เค้าบอกว่า ตัวเค้าน่ะ สบายมากทำใจได้แล้ว แถมตอนนี้กำลังเก็บตังซื้อวิกเตรียมด้วย หนูว่ามุกแบบนี้กับคนที่เราเป็นห่วงมันไม่ตลกเลย ถ้าอย่างไร ก็ขอคำแนะนำจากคุณด้วยนะคะ เป็นกำลังใจให้คุณค่ะ แล้วก็เพราะอ่านบล๊อกของคุณ คุณได้ให้ความรู้กับหนูมากเลยล่ะค่ะ ขอบคุน คุณ จริงๆนะคะ

Unknown กล่าวว่า...

สวัสดีครับ เป็นกำลังใจให้นะครับ ใจเป็นนายกายเป็นบ่าว ถ้าจิตใจเรายังดีอยู่ร่างกายเราเป็นเรื่องเล็กครับ จงใช้วิตไปตามปรกติเถอะครับ แต่ก็อย่าประมาท หาที่ผ่อนคลาย อยู่กับเพื่อน หรือทำกิจกรรมบ่อยๆก็จะได้ไม่มีเวลาคิดมากครับ ขอให้หายเร็วๆนะครับ

Unknown กล่าวว่า...

สวัสดีครับ เป็นกำลังใจให้นะครับ ใจเป็นนายกายเป็นบ่าว ถ้าจิตใจเรายังดีอยู่ร่างกายเราเป็นเรื่องเล็กครับ จงใช้วิตไปตามปรกติเถอะครับ แต่ก็อย่าประมาท หาที่ผ่อนคลาย อยู่กับเพื่อน หรือทำกิจกรรมบ่อยๆก็จะได้ไม่มีเวลาคิดมากครับ ขอให้หายเร็วๆนะครับ

wwppnn@hotmail.com กล่าวว่า...

เป็นกำลังใจให้ด้วยครับ คุณแม่ผมก็เป็นโรคนี้เหมือนกัน ตอนนี้ ท่านรักษาด้วย ยาตัวเดียวกับคุณ ที่โรงพยาพาลเวชศาสตร์เขตร้อน อยากสอบถามว่าคุณรักษาอยู่ที่ไหน มาแชร์ความรู้กันนะครับ

Unknown กล่าวว่า...

plekayai
วันนี้ดิฉันไปหาหมอเนื่องจากปวดตามข้อ นิ้วมือ หลัง หัวเข่า (ตามข้อต่าง) คุณหมอเลยให้ไป x- ray เจาะเลือด ผล x- ray ปกติดี แต่เกล็ดเลือดแดงมากผิดปกติ คุณหมอเลยส่งให้หมออีกท่านตรวจเลือด (นัดวันอังคารที่ 14 ) อาการของดิฉันคล้ายคุณเลย
อยากขอคำแนะนำ ไม่ทราบว่าจะเป็นมะเร็งเมล็ดเลือดหรือเปล่า เพราะญาตทางคุณพ่อ-คุณแม่ เป็นมะเร็ง

nunnin กล่าวว่า...

ตอนนี้ตรวจพบเกล็ดเลือดสูงเหมือนกันค่ะ อายุ 32
ยังไม่ทราบแน่ชัด รอผลแล็บ

nunnin กล่าวว่า...

ขอบคุณข้อมูลมากนะค่ะ เป็นประโยชน์มาก
แต่อยากจะขอรายละเอียดข้อมูลโรงพยาบาลรัฐด้วยค่ะว่าย้ายไปโรงพยาบาลใหน เพราะตอนนี้ก็ต้องเริ่มรักษาตัวเองแล้วเหมือนกัน ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
wiyakaew@hotmail.com

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณข้อมูลมากๆ ถ้ามีเบอร์โทรคุณด้วยน่าจะดี
อาจจะช่วยเป็นที่ปรึกษาให้กับคนที่เขากำลังป่วยอยู่
(ได้บุญด้วย) จริงๆแล้วผมก็อยากปรึกษาเหมือนกัน
ถ้าเป็นไปได้จะขอบคุณมากๆๆเลย

Unknown กล่าวว่า...

คุณ taw tim ดีใจนะคะที่ยังมีคนนึกถึงอยู่ ตัวพี่เองไม่ค่อยได้อยู่เป็นที่ ก็เลยไม่ได้ติดต่อมาทางคุณปู(nataya) และพักหลังๆรุ้สึกเธอหายไป อาการเธอดีขึ้น ก็ดีใจด้วยนะคะ แต่ถ้าหากว่าใครอยากสอบถามอะไรเกี่ยวกับโรคเกล็ดเลือดตัวนี้ชื่อ hémoglobinopathie de type E คือโรคที่พี่เป็นอยู่ และยาที่พี่ทานอยู่คือ HYDREA และ XAGRID พี่จะให้คำตอบเท่าที่พี่รู้นะคะ เป็นกำลังใจให้กับทุกคนนะคะ อย่าท้อและอย่ากลัว แล้วเจอกันนะคะคุณ taw tim

Unknown กล่าวว่า...

การเจาะไขกระดูกเสี่ยงมากไหม และนานหรือปล่าวกว่าจะทราบผล ตอนนี้ว่าจะพาแม่ไปเจาะไขกระดูกเหมือนกัน การรักษาที่ รพ.รัฐ จะเสียค่าใช้จ่ายอะไรมากไหม เช่น ค่ายา

Unknown กล่าวว่า...

การมีเกล็ดเลือดสูงเป็น 1,000,000 ถ้าเจาะไขกระดูกจะมีความเสี่ยงอะไรบ้าง ช่วยตอบด้วยครับ

Nattaboonya Nakasan กล่าวว่า...
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
Nattaboonya Nakasan กล่าวว่า...

ขอโทษค่ะ อาการไม่ได้ดีขึ้นค่ะ ที่หายไปเพราะขณะนี้ไปเปิดเว็บบอร์ดและกลุ่มเฟส ทิ้งเมล์ไว้นะคะ จะแอดเข้ากลุ่มเฟส ขณะนี้มีสมาชิกอยู่ในกลุ่มหลายท่านค่ะ หรือส่งเมล์มาที่ nataya.pu@gmail.com ได้เลยค่ะ ขอโทษอีกครั้งค่ะ

Nattaboonya Nakasan กล่าวว่า...
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
Unknown กล่าวว่า...

เป็นโรคนี้เหมือนกันครับ รบกวนขอแอดเข้ากลุ่มด้วยนะครับ chayapak@gmail.com

Unknown กล่าวว่า...

noknok.nn953@gmail.comขอความกรุณา@เข้ากลุ่มด้วยค่ะ

Unknown กล่าวว่า...
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
Unknown กล่าวว่า...

tuu.wilailak@gmail.com รบกวน @เข้ากลุ่มด้วยค่ะ เป็นโรคนี้เหมือนกัน ตอนนี้กำลังจะรักษาแบบฉีดยาค่ะ